อากาศร้อนจัดแตะ 40 องศา อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น กรมประมง...เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ระวัง ! โรคตับวายเฉียบพลัน (AHPND) หรือ โรคกุ้งตายด่วน (EMS)

 กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ


อากาศร้อนจัดแตะ 40 องศา อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น กรมประมง...เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ระวัง ! โรคตับวายเฉียบพลัน (AHPND) หรือ โรคกุ้งตายด่วน (EMS) 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

อากาศร้อนจัดแตะ 40 องศา อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น กรมประมง...เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ระวัง ! โรคตับวายเฉียบพลัน (AHPND) หรือ โรคกุ้งตายด่วน (EMS)..คลิก

           นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง  กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิน้ำสูงขึ้นเอื้อต่อการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Vibrio parahaemolyticus ที่สร้างสารพิษได้ (VpAHPND) ก่อให้เกิดโรคตับวายเฉียบพลัน หรือ โรคกุ้งตายด่วน (AHPND/EMS) ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงต่อผลผลิตของกุ้งทะเล 
          โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดโรค ได้แก่ อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้น การให้อาหารปริมาณมาก คุณภาพน้ำไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดแพลงก์ตอนบลูม ปริมาณแอมโมเนียและไนไตรท์ในน้ำสูง กุ้งเครียดและอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันลดลง มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคนี้ ส่วนใหญ่จะพบการติดเชื้อในกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำระยะโพสลาวา (PL) ช่วงอายุ 30 – 35 วันหลังปล่อยกุ้งลงบ่อดิน  ลักษณะของกุ้งที่ป่วยเป็นโรคตับวายเฉียบพลัน จะเกิดการฝ่อและตายของท่อตับและตับอ่อน บางครั้งมองเห็นเป็นขีดสีดำบริเวณตับและตับอ่อนในกุ้ง ลำไส้ไม่มีอาหาร เปลือกกุ้งนิ่ม กุ้งโตช้า ว่ายน้ำเฉื่อยโรคตับวายเฉียบพลันในกุ้งสามารถติดต่อได้ทางน้ำและการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ รวมทั้งการกินกันเองของกุ้ง  
          เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและป้องกันความเสียหายจากโรคนี้ในช่วงฤดูร้อน ขอให้เกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมง ดังนี้
          1. เมื่อพบกุ้งที่มีอาการผิดปกติหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมประมงในพื้นที่ หรือ แจ้งผ่านระบบการรายงานสัตว์น้ำป่วย กพส.สร.1 ตาม QR-code  ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าฟาร์มเก็บตัวอย่างกุ้ง ส่งตรวจหาสาเหตุของโรคและให้คำแนะนำในเบื้องต้น
          2. ไม่เคลื่อนย้ายกุ้งชุดที่มีการตายผิดปกติออกจากบ่อเลี้ยงและฟาร์ม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
          3. ไม่ถ่ายน้ำจากบ่อที่มีกุ้งตายผิดปกติออกสู่ภายนอกฟาร์มในขณะที่รอผลการตรวจ กรณีได้รับผลตรวจยืนยันว่ากุ้งป่วยจากโรคนี้ ต้องฆ่าเชื้อในน้ำโดยใช้คลอรีน ปริมาณ 200 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน (200 PPM) แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 - 48 ชั่วโมง เพื่อมั่นใจว่าไม่มีคลอรีนเหลืออยู่ ก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม
           4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในบ่อที่มีการตายของกุ้งด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีนปริมาณ 200 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน (200 PPM)  แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
          อธิบดีฯ กล่าวเน้นย้ำในตอนท้าย ว่าเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ควรหมั่นสังเกตและดูแลกุ้งอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ควบคุมการให้ปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม หรืออาจผสมสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเช่น วิตามินซี เบตากลูเคน  จุลินทรีย์โพรไบโอติก ฯลฯ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมประมง เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับกุ้ง อย่างไรก็ตามหากพบกุ้งป่วยหรือมีอาการผิดปกติ หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถแจ้งหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัด หรือ ศูนย์วิจัยฯ สัตว์น้ำของกรมประมงในพื้นที่ หรือ กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรุงเทพฯ โทร.  0 2579 4122นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง  กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิน้ำสูงขึ้นเอื้อต่อการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Vibrio parahaemolyticus ที่สร้างสารพิษได้ (VpAHPND) ก่อให้เกิดโรคตับวายเฉียบพลัน หรือ โรคกุ้งตายด่วน (AHPND/EMS) ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงต่อผลผลิตของกุ้งทะเล 
          โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดโรค ได้แก่ อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้น การให้อาหารปริมาณมาก คุณภาพน้ำไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดแพลงก์ตอนบลูม ปริมาณแอมโมเนียและไนไตรท์ในน้ำสูง กุ้งเครียดและอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันลดลง มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคนี้ ส่วนใหญ่จะพบการติดเชื้อในกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำระยะโพสลาวา (PL) ช่วงอายุ 30 – 35 วันหลังปล่อยกุ้งลงบ่อดิน  ลักษณะของกุ้งที่ป่วยเป็นโรคตับวายเฉียบพลัน จะเกิดการฝ่อและตายของท่อตับและตับอ่อน บางครั้งมองเห็นเป็นขีดสีดำบริเวณตับและตับอ่อนในกุ้ง ลำไส้ไม่มีอาหาร เปลือกกุ้งนิ่ม กุ้งโตช้า ว่ายน้ำเฉื่อยโรคตับวายเฉียบพลันในกุ้งสามารถติดต่อได้ทางน้ำและการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ รวมทั้งการกินกันเองของกุ้ง  
          เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและป้องกันความเสียหายจากโรคนี้ในช่วงฤดูร้อน ขอให้เกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมง ดังนี้
          1. เมื่อพบกุ้งที่มีอาการผิดปกติหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมประมงในพื้นที่ หรือ แจ้งผ่านระบบการรายงานสัตว์น้ำป่วย กพส.สร.1 ตาม QR-code  ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าฟาร์มเก็บตัวอย่างกุ้ง ส่งตรวจหาสาเหตุของโรคและให้คำแนะนำในเบื้องต้น
          2. ไม่เคลื่อนย้ายกุ้งชุดที่มีการตายผิดปกติออกจากบ่อเลี้ยงและฟาร์ม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
          3. ไม่ถ่ายน้ำจากบ่อที่มีกุ้งตายผิดปกติออกสู่ภายนอกฟาร์มในขณะที่รอผลการตรวจ กรณีได้รับผลตรวจยืนยันว่ากุ้งป่วยจากโรคนี้ ต้องฆ่าเชื้อในน้ำโดยใช้คลอรีน ปริมาณ 200 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน (200 PPM) แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 - 48 ชั่วโมง เพื่อมั่นใจว่าไม่มีคลอรีนเหลืออยู่ ก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม
           4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในบ่อที่มีการตายของกุ้งด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีนปริมาณ 200 กรัม ต่อน้ำ 1 ตัน (200 PPM)  แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
          อธิบดีฯ กล่าวเน้นย้ำในตอนท้าย ว่าเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ควรหมั่นสังเกตและดูแลกุ้งอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ควบคุมการให้ปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม หรืออาจผสมสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเช่น วิตามินซี เบตากลูเคน จุลินทรีย์โพรไบโอติก ฯลฯ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมประมง เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับกุ้ง อย่างไรก็ตามหากพบกุ้งป่วยหรือมีอาการผิดปกติ หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถแจ้งหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัด หรือ ศูนย์วิจัยฯ สัตว์น้ำของกรมประมงในพื้นที่ หรือ กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรุงเทพฯ โทร.  0 2579 4122

 Tags

  •   Hits
  • รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสหราชอาณาจักร  (ฉบับปรับปรุง ปี 2025) รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสหราชอาณาจักร (ฉบับ... จำนวนผู้อ่าน 218  ศูนย์วิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำสงขลา จัดกิจกรรมคลินิกเคลื่อนที่และการประชุมการแก้ไขปัญหาโรคกุ้งทะเล ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคและแนวทางการแก้ไขปัญหาโรคกุ้งทะเล” ในพื้นที่ จังหวัดตรัง ศูนย์วิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำสงขลา จัดกิจกรรมคลินิกเคลื่อนที่และการประชุมการแ... จำนวนผู้อ่าน 159 เกษตรกรยุคใหม่ เลี้ยงสัตว์น้ำใส่ใจ ไม่ใช้  เกษตรกรยุคใหม่ เลี้ยงสัตว์น้ำใส่ใจ ไม่ใช้ "ยาด๊อกซี่"  จำนวนผู้อ่าน 146 รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกสัตว์น้ำมีชีวิต ไปยังสาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกสัตว์น้ำมีชีวิต ไปยังสาธารณรัฐเกาหล... จำนวนผู้อ่าน 131 รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังประเทศปลายทาง สหภาพยุโรป รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังประเทศปลายทาง สหภาพย... จำนวนผู้อ่าน 128 ปรสิตภายนอกที่พบบ่อยในปลาสวยงาม ปรสิตภายนอกที่พบบ่อยในปลาสวยงาม  จำนวนผู้อ่าน 126 รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกสัตว์น้ำมีชีวิต  ไปยังราชอาณาจักรเบลเยียม รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกสัตว์น้ำมีชีวิต ไปยังราชอาณาจักรเบ... จำนวนผู้อ่าน 124 รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสาธารณรัฐเซอร์เบีย รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสาธารณรัฐเซอร์เบีย  จำนวนผู้อ่าน 120 กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบการตายผิดปกติของปลาสลิด ผ่านการรายงานระบบรายงานสัตว์น้ำป่วย (กพส.สร.1) ในจังหวัดสมุทรสาคร กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบการตายผิดปกติของปลาสลิด ผ่านการรา... จำนวนผู้อ่าน 115 รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกไปยังอินโดนีเซีย (ฉบับปรับปรุง ปี 2025) รูปแบบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำสำหรับส่งออกไปยังอินโดนีเซีย (ฉบับปรับปรุง ปี 2... จำนวนผู้อ่าน 103 รายชื่อยาต้านจุลชีพที่อนุญาตให้ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปี 2568 รายชื่อยาต้านจุลชีพที่อนุญาตให้ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปี 2568  จำนวนผู้อ่าน 102 รายงานผลสำเร็จการดำเนินการขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรม กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายงานผลสำเร็จการดำเนินการขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรม กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 96 กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำเข้าร่วมการประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจและเสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งไทยอย่างยั่งยืน กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำเข้าร่วมการประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจและเสนอแนวทาง... จำนวนผู้อ่าน 90 การประชุมคณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 การประชุมคณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568  จำนวนผู้อ่าน 88 กิจกรรมคลินิกสุขภาพสัตว์น้ำเคลื่อนที่ (Mobile Clinic) ในพื้นที่จังหวัดตราด กิจกรรมคลินิกสุขภาพสัตว์น้ำเคลื่อนที่ (Mobile Clinic) ในพื้นที่จังหวัดตราด  จำนวนผู้อ่าน 71


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ

    รายละเอียด 50 กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรมประมง เกษตรกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  email  aahrdd.dof@gmail.com  โทรศัพท์ 02 579 4122  FAX 02 561 3993  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6