การป้องกันโรคปลาในช่วงฤดูหนาว


[2024-12-27] ประกาศกรมประมง เรื่อง บัญชีรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสรรเพื่อจัดจ้างเป็นพน.. [2024-12-25] ประกาศขายครุภัณฑ์เสื่อมสภาพ ประจำปีงบประมาณ 2568.. [2024-10-24] รายละเอียดประกอบงบทดลองประจำปี 2567.. [2024-10-24] งบทดลองประจำปี 2567.. [2024-07-08] ประกาศศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน เรื่อง รายชื่อผู้ผ่านการเลือก..  [2024-05-27] ประกาศศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้า.. [2023-07-12] แผนการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนฯ (2566 - 2570).. [2022-07-04] ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขและติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อม โคร.. [2022-07-04] ดำเนินการการทดลองการใช้เครื่องมือมุ้งดักปลาทรงร่ม และติดตามสัมภาษ์เกษต.. [2022-07-04] มอบพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อให้กับผู้นำชุมชนดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพ.. อ่านทั้งหมด 

การป้องกันโรคปลาในช่วงฤดูหนาว 

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

                      ในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูหนาวปลาต่างๆ ที่เกษตรกรเลี้ยงไว้มักจะเกิดโรคระบาดได้ง่าย ความแข็งแรงและความต้านทานโรคลดลง ปลาจะเครียด ไม่กินอาหาร จึงเป็นช่วงที่ต้องระวังไม่ให้ปลาที่เลี้ยงเป็นโรคระบาดปลา ไม่ว่าจะเป็นโรคจุดขาวในปลาดุก ปลาสวาย โรคหนอนสมอในปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ โรคเห็บปลา ในปลาที่มีเกล็ด ปลาที่มีหนัง เป็นต้น เกษตรกรควรรีบจับปลาที่ไม่เป็นโรคจำหน่ายแม้จะได้ราคาไม่ดี อย่างไรก็ตามหากเกษตกรมีความจำเป็นต้องเลี้ยงปลาต่อไปอีก เราขอแนะนำวิธีดูแลและป้องกันดังนี้

                       การดูแลและป้องกันโรคที่จะเกิดกับปลาในช่วงฤดูหนาว 

     1. ลดปริมารอาหารปลาให้น้อยลง เพราะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิในตัวปลาจะลดต่ำลง การเผาผลาญอาหารก็จะต่ำลงไปด้วย

     2. พยายามงดการเปลี่ยนถ่ายน้ำในบ่อ และไม่นำน้ำจากธรรมชาติเข้ามาในบ่อ เช่น น้ำในคลอง เพราะอาจมีเชื้อโรคปะปนเข้ามา ถ้าต้องการเปลี่้ยน             ถ่ายน้ำก็ควรมั่นใจว่าน้ำที่จะเปลี่ยนนั้นสะอาดจริงๆ

     3. สำหรับปลาที่เลี้ยงในบ่อดินควรรักษาสภาพน้ำให้อยู่ในสภาพดี โดยสาดปูนขาวลงในบ่อ ประมาณ 60-100 กิโลกรัม/บ่อเลี้ยงปลา1ไร่ และใส่ซ้ำ             อีกในอัตราเดียวกันทุก 3-4 สัปดาห์

     4. ในกรณีที่มีแก๊สผุดขึ้นมาจากพื่นก้นบ่อ ให้สาดเกลือ 200-300 กิโลกรัมต่อบ่อขนาด 1ไร่ โดยสาดเกลือบริเวณที่มีแก๊ส

     5. สำหรับปลาที่เลี้ยงในกระชังบริเวณน้ำตื้น ควรย้่ายไปอยู่บริเวณน้ำลึก ซึ่งจะเป็นการปรับอุณหภูมิของน้ำเพราะอุณหภูมิน้ำลึกจะสูงกว่า

     6. ช้อนปลาที่ตายหรือป่วยใกล้ตายออกเท่าที่จะทำได้ และทำลายโดยการฝังดินหรือเผาทิ้ง 

     7. ใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหาร เช่น ยาอ๊อกซี่ (5กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม) ผสมอาหารให้ปลากินนาน 14 วัน และไม่ควรใช้ยาสองชนิดรวมกัน เพราะอาจ         ทำให้ประสิทธิภาพยาลดลง ่หรือไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ส่วนวิตามินซีให้ใช้ได้(ถ้าให้ปลากินอ๊อกซีแล้ว7วัน ปลายังไม่ลดการตาย ให้เปลี่ยนยาโดย        ใช้ยาอัมม๊อกซีรีน 250 หรือ500ผสมอาหาร 1เม็ด/อาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินนาน 7 วัน)  

     8. เมื่อพบว่าปลาในบ่อและปลาในธรรมชาติหายป่วยแล้ว จึงทำการเปิดถ่ายน้ำ และให้อาหารปลาปกติ การป้องกันเชื้อโรคและปรสิตภายนอก

          ใช้ด่างทับทิม 1 ช้่อนชา ห่อด้วยผ้าหนาๆ เช่น ผ้ายีนถ่วงด้วยหินแช่น้ำลึกประมาณ 1 ศอก ผูกตามมุมกระชังให้ทั่วเพื่อไล่เชื้อโรคปรสิต ให้ทำ 3                วัน/1ครั้ง 

          การป้องกันปลาในกระชังที่ยังไม่ติดเชื้อ

          ใช้กระเจี๊ยบแดง 3 ส่วนต่อน้ำอุ่น 1 ส่วน(แช่น้ำอุ่นข้ามวันแล้วกรองเอาแต่น้ำใช้ผสมอาหารให้ปลากิน อัตราส่วน น้ำกระเจี๊ยบแดง 50 ซีซี /อาหาร            1 กิโลกรัม)  

           หมายเหตุ: การใช้ยาต้องงดการใช้ยาก่อนจับขายอย่างน้อย 15 วัน หรือตามคำแนะนำบนฉลากยา อย่างเคร่งครัด

ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่มีปัญหาโรคปลาก็ควรสังเกตปลาในธรรมชาติหรือปลาที่เลี้ยงไว้ หากมีความผิดปกติ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าว และเข้าขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ได้ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้จืดำลำพูน  โทร  053-584566  

E-mail:lamphunfish@gmail.com

 


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา