จากสาหร่ายวัชพืชไร้ค่า สู่ผืนผ้ามูลค่าสูง

จากสาหร่ายวัชพืชไร้ค่า สู่ผืนผ้ามูลค่าสูง 

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรีและฟาร์มทะเลตัวอย่าง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีหลวง จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับคุณบัณฑิต พงศาโรจนวิทย์ (บริษัทไทยนำโชคเท็กไทล์ จำกัด ) ได้ริเริ่ม คิดค้นนำสาหร่ายเส้นใย(Filamentous Algae) ที่พบมากในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ มาพัฒนาเป็นเส้นด้ายและถักทอเป็นผืนผ้า ก่อนต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เพื่อการส่งออก ตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy).
สาหร่ายเส้นใย(Filamentous Algae) มีลักษณะเป็นเซลล์สาหร่ายเดี่ยวที่ก่อตัวเป็นสายโซ่หรือเส้นใย ที่มองเห็นได้ยาวๆเส้นใยพันกันเป็นแผ่นคล้ายขนแกะเปียก
สาหร่ายเส้นใยเจริญเติบโตตามพื้นน้ำตื้น หรือเกาะติดกับวัสดุในน้ำ เช่น หินหรือพืชน้ำอื่นๆ มักลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ก่อตัวเป็นแผ่นขนาดใหญ่ มีหลายสายพันธุ์ และมักมีมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์อยู่ในบ่อในเวลาเดียวกัน เป็นแหล่งอาหารของโปรโตซัว แมลง และปลา สาหร่ายจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของห่วงโซ่อาหาร
แต่ในหลักการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สาหร่ายเส้นใยจัดว่าเป็นวัชพืชน้ำเค็ม ที่ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต้องกำจัดออกจากบ่อเลี้ยง เมื่อสาหร่ายเจริญเติบโตมากจะมีผลให้น้ำเกิดการขาดอ็อกซิเจนจากขบวนการหายใจและการย่อยสลาย ซึ่งมีผลให้สัตว์น้ำขาดอ็อกซิเจนแล้วตายได้ นอกจากนี้ในบ่อเลี้ยงสาหร่ายทะเล เช่น สาหร่ายพวงองุ่น สาหร่ายผมนาง สาหร่ายเส้นใยจะขึ้นปกคลุมบดบังแสงและแย่งสารอาหาร ทำให้สาหร่ายทะเลชนิดอื่นชะงักการเจริญเติบโตและตายได้
นายประพัฒน์ กอสวัสดิ์พัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรี กล่าวว่า ศูนย์มีความคิดริเริ่ม ที่จะนำสาหร่ายเส้นใยมาใช้ประโยชน์ ในการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรเรามักจะพบสาหร่ายเส้นใยในบ่อพักน้ำ หรือบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเป็นจำนวนมาก ตลอดทั้งปี จากการประเมินในบ่อขนาด 1ไร่ มีสาหร่ายสด 3,200 กิโลกรัม นำมาผึ่งแห้งเหลือ 640 กิโลกรัม สามารถนำมาผสมกับใยฝ้าย ทอเป็นผืนผ้าได้ถึง 3,200 หลา ผลิตภัณฑ์ที่ทำ ได้แก่ เสื้อคลุม หมวก กระเป๋า ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง โดยมีตลาดประเทศญี่ปุ่นและประเทศแถบยุโรปรองรับ
การนำสาหร่ายมาพัฒนาเป็นเส้นด้าย ก่อนทอเป็นผืนผ้าชิ้นแรกที่ได้จากสาหร่ายทะเล นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสาหร่ายไร้ค่าชนิดนี้ได้เป็นอย่างมาก สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในอนาคตเราคงไม่หยุดอยู่แค่สาหร่ายเส้นใยชนิดนี้ จะมีการพัฒนาสาหร่ายไร้ค่าหรือเศษเหลือจากสาหร่ายชนิดอื่นๆ โดยจะมีการนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆต่อไป.


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา