ออสเตรเลียประกาศบังคับใช้ข้อกำหนดการปิดฉลากแจ้งประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าอาหาร(IFN 03-18)......

 กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง




ออสเตรเลียประกาศบังคับใช้ข้อกำหนดการปิดฉลากแจ้งประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าอาหาร(IFN 03-18)......

ออสเตรเลียเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ส ําหรับกํารปิดฉลํากแจ้งชื่อประเทศผู้ผลิตสินค้ํา(Country of OriginFood Lebelling Reform)

           หน่วยงานรับผิดชอบภาครัฐของออสเตรเลียได้ด าเนินการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ส าหรับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศผู้ผลิตสินค้าในฉลากสินค้าอาหาร เป็นการให้ข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อผู้บริโภคเกี่ยวกับแหล่งก าเนิดสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าทั้งนี้ ไม่ประสงค์ให้ผู้ผลิตสินค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จ าเป็นเดิมข้อก าหนดเกี่ยวกับฉลากจะก าหนดขึ้นภายใต้มาตรฐานอาหาร(Food Standard Codes)แต่การปรับเปลี่ยนครั้งใหม่นี้กฎระเบียบการปิดฉลากอาหารจะอยู่ภายใต้กฎหมายผู้บริโภคออสเตรเลีย(Australian Consumer Law)สิ่งส าคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ได้แก่  ฉลากส าหรับอาหารส่วนใหญ่ที่ปลูก(Grown)ผลิต(Produced)หรือท า (Made) ในออสเตรเลียจะต้องมีสัญญลักษณ์รูปจิงโจ้ในกรอบสามเหลี่ยมพร้อมทั้งกราฟแท่งและข้อความแสดงสัดส่วนองค์ประกอบจากออสเตรเลียการเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มตั้งแต่1 กรกฎาคม 2559โดยมีระยะเวลาผ่อนผันให้กับผู้ประกอบการเป็นเวลา 2 ปีในการเปลี่ยนฉลากให้เป็นไปตามข้อก าหนดใหม่หรือภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2561

                ข้อก าหนดใหม่นี้จะบังคับใช้เฉพาะอาหารที่มีการกำหนดให้ระบุประเทศผู้ผลิตภายใต้มาตรฐานอาหาร ซึ่งหมายถึงอาหารที่จ าหน่ายปลีกในออสเตรเลีย โดยไม่ครอบคลุมอาหารที่จำหน่ายในภัตตาคาร ร้านกาแฟ ร้านอาหารสำหรับซื้อกลับบ้าน หรือโรงเรียนทั้งนี้ หากเป็นอาหารที่ได้รับการจัดลำดับให้มีความส าคัญ(Priority foods) จะต้องเพิ่มรูปภาพและข้อมูลตามที่ก าหนด(เช่น โลโก้ กราฟแท่ง และข้อความภายในกรอบสี่เหลี่ยม) ส่วนสินค้าอาหารที่ไม่ใช่สินค้าที่ส าคัญ(Non-priority foods)สามารถระบุข้อมูลเพิ่มเติมใหม่นี้ได้ตามความสมัครใจ โดยที่สินค้าในกลุ่มนี้จะก าหนดให้ต้องแสดงข้อความแสดงแหล่งก าเนิดสินค้าบนฉลากเท่านั้นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าไม่ส าคัญ ได้แก่

-เครื่องปรุง

-ขนมหวาน(Confectionary)

-บิสกิตและขนมขบเคี้ยว

-น้ าดื่มบรรจุขวด

-น้ าอัดลมและเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา

-ชาและกาแฟ

-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

           ในขณะที่อาหารที่จัดลำดับให้มีความสำคัญคืออาหารชนิดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอาหารเหล่านี้ตามข้อกำหนดฉลากรูปแบบใหม่สำหรับอาหารที่จัดลำดับให้มีความสำคัญ ซึ่งมีการปลูก(Grown)ผลิต(Produced)หรือท า (Made) ในออสเตรเลียจะต้องดำเนินการใน 2 รูปแบบคือ

1.อาหารที่มีการปลูก ผลิต หรือทำในออสเตรเลีย จะต้องแสดงเครื่องหมายรูปจิงโจ้และข้อความมาตรฐานส่วนแรกแจ้งว่าอาหารนั้นปลูก ผลิต หรือทำในออสเตรเลีย

 

2.ร้อยละของส่วนผสมในอาหารโดยน้้ำหนัก โดยแสดงในรูปแบบกราฟแท่งและข้อความมาตรฐานส่วนที่สอง

  • คำว่า “Grown in”หรือ “Produced in”แสดงให้เห็นว่าเป็นสินค้าชั้นเยี่ยม(Premium) ซึ่งหมายถึงส่วนผสมทั้งหมดมาจากออสเตรเลียและการแปรรูปส่วนใหญ่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย
  • -ค าว่า “Made in”หมายถึง มีการทำขึ้นในออสเตรเลีย ซึ่งมีการแปรรูปส่วนใหญ่และเป็นขั้นสุดท้ายในออสเตรเลีย โดยที่ส่วนผสมอาจไม่ใช่ของออสเตรเลียทั้งหมด แต่มีการแปรรูปส่วนใหญ่ในออสเตรเลีย จึงอนุญาตให้แจ้งว่ามีแหล่งกำเนิดจากออสเตรเลียได้
  • -คำว่า “Made in”ไม่สามารถใช้กับส่วนผสมที่นำเข้าและมีการแปรรูปเพียงเล็กน้อย เช่น การตัดให้เป็นชิ้นบาง การแช่เยือกแข็ง การเคลือบ/การคลุกแป้งขนมปัง การขึ้นรูปใหม่ หรือการบรรจุ ยกตัวอย่างเช่น ชีสMozzarellaท าในออสเตรเลียจากส่วนผสมทั้งหมดที่มีการน าเข้าจากอิตาลี (รวมทั้งนม) สามารถปิดฉลากว่า Made in Australia from 0%Australian Ingredientsแต่ส าหรับชีสMozzarellaที่นำเข้าจากอิตาลี และมีการหั่นเป็นชิ้นย่อยและบรรจุในออสเตรเลียเพื่อจำหน่ายจะต้องปิดฉลากว่าMade in Italy
  • -ข้อความ “Packed in Australia”จะใช้เมื่อมีการบรรจุอาหารในออสเตรเลียซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการปลูก ผลิต หรือทำในออสเตรเลียหรือในประเทศอื่นทั้งนี้ ไม่ต้องมีการแสดงเครื่องหมายรูปจิงโจ้ เนื่องจากอาหารนั้นไม่ได้มีแหล่งกำเนิดจากออสเตรเลีย
  • -หากอาหารบางส่วนในภาชนะบรรจุมาจากออสเตรเลียฉลากจะต้องแจ้งว่าบรรจุในออสเตรเลีย พร้อมทั้งแสดงกราฟแท่งและข้อความแสดงสัดส่วนของส่วนผสมที่เป็นของออสเตรเลีย หากไม่มีอาหารจากออสเตรเลียในภาชนะบรรจุเลยจะต้องปิดฉลากว่า“Packed in Australia from imported ingredients”และแสดงแท่งกราฟเปล่า
  • -หากอาหารในภาชนะบรรจุเป็นไปตามข้อกำหนดว่ามีการปลูก ผลิต หรือทำในต่างประเทศ (ประเทศเดียว) ให้ปิดฉลากว่า“Grown in France, Packed in Australia”พร้อมด้วยแสดงแท่งกราฟเปล่า หรืออาจปิดฉลากแสดงประเทศต้นำาเนิดของสินค้าที่นำเข้าในกรอบสี่เหลี่ยมเท่านั้นก็ได้เช่นGrown in France

  • หากสินค้าอาหารจากออสเตรเลียมีการส่งออกและแปรรูปในต่างประเทศโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบขั้นสูง (Substantial transformation) และมีการน าเข้าอีกครั้ง จะต้องปิดฉลากว่ามีการแปรรูปชนิดใดในต่างประเทศ

  • -อาจมีการเลือกวิธีการปิดฉลากได้หลายรูปแบบหากแหล่งของส่วนผสมหลากหลาย อาจระบุค่าเฉลี่ยสัดส่วนของส่วนผสม โดยค านวณจากช่วงระยะเวลา 1, 2 หรือ 3 ปีซึ่งรวบรวมและสรุปภายในสองปีที่ผ่านมา
  • -อย่างไรก็ตาม ฉลากจะต้องทำให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนของส่วนผสมจากออสเตรเลียในอาหารที่ต้องการซื้อหรือซื้อมาแล้วผ่านทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์โดยอ้างอิงถึงหมายเลขรุ่นสินค้าหรือวันหมดอายุซึ่งพิมพ์แสดงอยู่บนภาชนะบรรจุ หรือการสแกนจากบาร์โค้ดหรือรูปแบบประเภทเดียวกัน

  • อาจมีการระบุแหล่งก าเนิดพร้อมชื่อส่วนผสมก็ได้

  • -ทั้งนี้ จะมีผลกระทบน้อยมากต่ออาหารที่มีการน าเข้ามายังออสเตรเลีย สินค้าน าเข้ายังต้องปิดฉลากประเทศแหล่งก าเนิดสินค้า เช่น Product of Thailand, Made in Canadaเป็นต้น และจะต้องเป็นไปตามข้อก าหนดใหม่ส าหรับข้อความ“Made in”และ“Packed in
  • ส าหรับอาหารที่ให้ความส าคัญสูง ก าหนดให้ผู้น าเข้าจะต้องแสดงประเทศแหล่งก าเนิดสินค้าในกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งท าให้ผู้บริโภคเห็นได้โดยง่าย โดยไม่อนุญาตให้ใช้สัญญลักษณ์จิงโจ้เนื่องจากไม่ใช่สินค้าจากประเทศออสเตรเลีย

  • หากผู้ประกอบการต้องการแสดงว่ามีส่วนผสมจากออสเตรเลียในอาหารที่น าเข้า อาจใช้ฉลากมาตรฐาน ซึ่งมีการแสดงกราฟแท่งและข้อความสัดส่วนของส่วนผสมที่มาจากออสเตรเลีย

 

 

  • ส าหรับอาหารที่เป็นการน าเข้าทั้งหมดทุกส่วน จะต้องแสดงข้อความ “Packed in”เมื่ออาหารนั้นไม่สามารถแสดงข้อความว่าปลูก ผลิต หรือท าในต่างประเทศใดเพียงประเทศเดียวได้ จะต้องปิดฉลากว่า“Packed in France from imported ingredients”
  • -หากอาหารนั้นมีการปลูก ผลิต หรือท าในต่างประเทศเพียงประเทศเดียว แต่บรรจุในอีกประเทศหนึ่ง ข้อก าหนดใหม่ก าหนดให้ต้องแสดงฉลากว่าอาหารนั้นปลูกผลิต หรือท าในประเทศใด อาจแจ้งว่าบรรจุในประเทศใดด้วยก็ได้

  • -สำหรับอาหารที่ให้ความสำคัญสูง กำหนดให้ผู้นำเข้าจะต้องแสดงประเทศแหล่งกไเนิดสินค้าในกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเห็นได้โดยง่าย โดยไม่อนุญาตให้ใช้สัญญลักษณ์จิงโจ้เนื่องจากไม่ใช่สินค้าจากประเทศออสเตรเลีย-หากผู้ประกอบการต้องการแสดงว่ามีส่วนผสมจากออสเตรเลียในอาหารที่นำเข้า อาจใช้ฉลากมาตรฐาน ซึ่งมีการแสดงกราฟแท่งและข้อความสัดส่วนของส่วนผสมที่มาจากออสเตรเลีย
  • -สำหรับอาหารที่เป็นการนำเข้าทั้งหมดทุกส่วน จะต้องแสดงข้อความ “Packed in”เมื่ออาหารนั้นไม่สามารถแสดงข้อความว่าปลูก ผลิต หรือทำในต่างประเทศใดเพียงประเทศเดียวได้ จะต้องปิดฉลากว่า“Packed in France from imported ingredients”
  • -หากอาหารนั้นมีการปลูก ผลิต หรือทำในต่างประเทศเพียงประเทศเดียว แต่บรรจุในอีกประเทศหนึ่ง ข้อกำหนดใหม่กำหนดให้ต้องแสดงฉลากว่าอาหารนั้นปลูกผลิต หรือทำในประเทศใด อาจแจ้งว่าบรรจุในประเทศใดด้วยก็ได้-ได้มีการเผยแพร่แนวทางสำหรับรูปแบบฉลาก(Style Guide)โดยระบุรูปแบบฉลากมาตรฐาน ฉลากไม่จำเป็นต้องมีสีเขียวหรือสีทอง อาจเป็นสีขาวดำก็ได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องบรรจุอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม แต่มีข้อยกเว้นส าหรับภาชนะบรรจุขนาดเล็ก
  • -ภาครัฐของออสเตรเลียได้พัฒนาเครื่องมือในการประเมินด้วยตนเองออนไลน์ส าหรับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้สามารถกำหนดรูปแบบฉลากได้ ผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดฉลากรูปใหม่ของตนโดยใช้เครื่องมือนี้-ผู้ประกอบการและผู้บริโภคสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมและเป็นปัจจุบันได้จากhttp://www.industry.gov.au/industry/IndustrySectors/FoodManufacturingIndustry/Pages/Country-of-Origin-Labelling.aspx

ที่มํา:Country of Origin Food Labelling –Factsheet (http://www.industry.gov.au/industry/IndustrySectors/FoodManufacturingIndustry/Documents/Factsheet-DIIS-CoOL.pdf)

สำานักงํานที่ปรึกษํากํารเกษตรต่ํางประเทศ ประจ ํากรุงแคนเบอร์รํา

สิงหําคม 2559

 

 

 

 

  •   หน่วยงาน: กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง
  •   ประกาศวันที่: 2018-05-24
  •   ประกาศสิ้นสุดเเล้วเมื่อวันที่: 2020-10-23 

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง

รายละเอียด กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง เกษตรกลาง จตุจักร กรุงเทพฯ 10900  email  fiqd@dof.mail.go.th  โทรศัพท์ 02 5620600-5  FAX 02 5580136  แฟนเพจ แฟนเพจ
CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6