ออสเตรเลียแจ้งเปลี่ยนแปลงการตรวจวิเคราะห์ในอาหารกลุ่มเฝ้าระวัง...

ออสเตรเลียแจ้งเปลี่ยนแปลงการตรวจวิเคราะห์ในอาหารกลุ่มเฝ้าระวัง

             กระทรวงเกษตรและทรัพยากรน ้าออสเตรเลีย(Department of Agriculture and Water Resources)เผยแพร่ประกาศ Imported Food NotificationIFN 13-17Tests applies to surveillance foodลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจวิเคราะห์อาหารน้าเข้าทีีจะมีผผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 สิาหําคม 2560  เป็นต้นไป

          สืบเนื่องจากการที่กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียด้าเนินการทบทวนการตรวจวิเคราะห์อาหารกลุ่มเฝ้าระวังส้าหรับอาหาร 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ปลา 2) ชีสซึ่งไม่มีการเจริญของเชื อListeria monocytogenesและ3) เครื่องดื่มจากน้ำกระทิ(Coconut milk drinks) เสร็จสิ้นแล้ว จึงก้าหนดรายละเอียดการตรวจวิเคราะห์ส้าหรับอาหารกลุ่มเฝ้าระวัง โดยที่จะมีอัตราการสุ่มตัวอย่างร้อยละ 5 ของสินค้าน้าเข้า ดังนี

ปลํา (Finfish)

            ตามที่มีการจัดกลุ่มสินค้าปลาและผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสารฮีสตามีนขึ นใหม่เมื่อเดือนมกราคม 2560 ท้าให้การตรวจวิเคราะห์สารพิษฮีสตามีน (Histamine)ในอัตราสุ่มแบบเฝ้าระวังจะสิ นสุดลงทั งนี สามารถรับทราบข้อมูลชนิดปลาที่เข้าข่ายพบฮีสตามีนสูงได้ในเอกสารImported Food Notice 21-16กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียจะขยายการตรวจคัดกรองสารปฏิชีวนะตกค้างในปลาจากการเพาะเลี ยงให้ครอบคลุมสารQuinolones, Oxolinic acidและ Flumequine ในขณะที่ยังคงตรวจสอบสาร Malachite Green และFluoroquinolones ต่อไปเช่นเดิมตามมาตรฐานอาหารออสเตรเลียนิวซีแลนด์Food Standards Code,Standard 1.4.2ก้าหนดการตรวจวิเคราะห์กลุ่มสารปฏิชีวนะในสัตว์น ้าไว้ดังนี

                    กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียยกเลิกการรับรองโดยภาครัฐ(ของประเทศผู้ผลิต) ว่าเป็นปลาที่จับจากธรรมชาติ (Wild caught) โดยจะมีการตรวจวิเคราะห์ปลากลุ่มเป้าหมายซึ่งได้จากการเพาะเลียงแทน ดังนี

รายการปลากลุ่มเป้าหมายที่จะตรวจวิเคราะห์สารปฏิฃีวนะตกค้าง

                   ช่ีสที่ไม่มีการเจริญของชื้อ Listeria monocytogenes(Cheese that does not support the growth of Listeria monocytogenes)

         การเฝ้าระวังในชีสจะด้าเนินการในชีสที่ระบุว่าเป็นชนิดที่ไม่มีการเจริญของเชื้อ Listeria monocytogenesโดยจะพิจารณาว่าเข้าข่ายนี ตามเอกสารhttp://www.agriculture.gov.au/import/goods/food/inspection-compliance/risk-food/cheese-soft

        ทั้งนีจะตรวจวิเคราะห์เชือL. monocytogenesแทนการตรวจวิเคราะห์Escherichia coliและจะประเมินผลวิเคราะห์ตามมาตรฐานอาหารFood StandardsCode, Standard1.6.1ของมาตรฐานอาหารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (Australia New Zealand Food Standards Code)ส้าหรับอาหารพร้อมบริโภคชนิดที่เชื อ L. monocytogenesไม่เจริญเติบโต โดยจะสุ่มตรวจวิเคราะห์ชีสในอัตราเฝ้าระวังที่ร้อยละ 5 จะพิจารณาว่าอาหารเป็นไปตามมาตรฐาน 1.6.1 ก็ต่อเมื่อในตัวอย่างทั้ง 5 ไม่มีตัวอย่างใดที่พบเชื้อL.monocytogenesเกินกว่า100 โคโลนีต่อกรัมต่อรุ่น (Lot) ของอาหารนั้น

        เครื่องดื่มจากน้ำกะทิ(Coconut milk drinks)

                 ตามมาตรฐานอาหารออสเตรเลียนิวซีแลนด์ FoodStandardCode,Standards1.2.3ก้าหนดให้ต้องมีการระบุเกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้บางชนิดบนฉลาก ซึ่งรวมถึงนมและผลิตภัณฑ์จากนม (วัว)

               ระหว่างเดือนกันยายน 2558 –มีนาคม 2559 กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียด้าเนินการตรวจวิเคราะห์การปะปนของผลิตภัณฑ์จากนมวัวในเครื่องดื่มกระทิน้าเข้าและมะพร้าวผง โดยที่ไม่มีการระบุว่ามีส่วนผสมของนมวัวบนฉลาก การสุ่มตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการเรียกคืนสินค้าหลายครั้งและการสืบหาสาเหตุโดยหน่วยงานรัฐบาลในระดับรัฐ กระทรวงเกษตรฯ ออสเตรเลียก้าหนดให้มีการสุ่มตรวจวิเคราะห์ในอัตราเฝ้าระวังส้าหรับการไม่ระบุส่วนผสมของนมวัวในฉลากเครื่องดื่มน้ำกระทิเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน 1.2.3และได้เตือนให้ผู้น้าเข้ารับทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงในระดับสูงต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคหากไม่ระบุเกี่ยวกับสารก่อนภูมิแพ้บนฉลากทั งนี สามารถรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการระบุสารก่อภูมิแพ้ในฉลากได้จากImported Food Notice 08-17Mandatory allergen labelling

              ภายใต้มาตรา 8 ของกฎหมายควบคุมอาหารน้าเข้า Imported Food Control Act 1992การน้าเข้าอาหารมายังออสเตรเลียโดยผู้น้าเข้าทราบอยู่แล้วหรือมีเหตุให้เชื่อว่ารับทราบอยู่แล้วว่าจะเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคเป็นการกระท้าที่ผิดกฎหมายและมีโทษจ้าคุก 10 ปี

ที่มํา:

http://www.agriculture.gov.au/import/goods/food/notices/ifn-13-17

http://www.agriculture.gov.au/import/goods/food/notices/ifn-21-16

https://www.legislation.gov.au/Details/F2016C00168

https://www.legislation.gov.au/Details/F2016C00172

https://www.legislation.gov.au/Details/F2017C00418

http://www.agriculture.gov.au/import/goods/food/notices/ifn-08-17

 สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงเคนเบอร์ร่า

สิงหาคม 2560