ร่วมต้อนรับองคมนตรีในการติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

[2025-10-10] “ประมงศรีสะเกษ ตรวจรับพัสดุงานจัดซื้อพันธุ์กุ้งก้ามกราม โครงการบริหารจ.. [2025-10-10] สำนักงานประมงศรีสะเกษให้กำลังใจเกษตรกรดีเด่น.. [2025-10-10] เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวันสำคัญของชาติไทย.. [2025-10-10] ลงพื้นที่ติดตามการเลี้ยงปลาตะเพียนขาวแบบลดต้นทุน.. [2025-10-10] จัดฝึกอบรมเกษตรกรภายใต้โครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตร.. [2025-10-10] ลงพื้นที่ชมแปลงสมาชิกองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านคำเผือ.. [2025-10-10] มอบปัจจัยการผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ (ปลาตะเพียนขาว) ภายใต้โครงการ “ฟื้นฟูพั.. [2025-10-10] ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ติดตามศพก.เครือข่ายด้านประมง.. [2025-10-10] ลงพื้นที่กับคณะกรรมการแหล่งน้ำหนองป้อมปราบประเมินปริมาณสัตว์น้ำต่อหน่ว.. [2025-10-10] ร่วมประชุมคณะทำงานพิจารณากลั่นกรอง และติดตามผลการดำเนินโครงการที่ขอใช.. อ่านทั้งหมด 

ร่วมต้อนรับองคมนตรีในการติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

นายกิตติพงษ์ ลีลาศสง่างาม ประมงจังหวัดศรีสะเกษ นายปรีชา งอกนาวัง หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง นายธนดล นวลจันทร์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดศรีสะเกษ ร่วมต้อนรับองคมนตรีและนายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง ในการติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธาน

โดยท่านองคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานและการพัฒนาต่อยอดโครงการเพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์สู่ประชาชนได้อย่างกว้างขวางตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบไป จากนั้น ได้ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. ได้รายงานแนวทางการดำเนินงานสนองพระราชดำริภายในศูนย์ฯ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร ให้ดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Service) ที่มีลักษณะเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต โดยการรวมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติงานแบบบูรณาการร่วมกัน และขยายผลไปสู่ประชาชนให้สามารถพัฒนาอาชีพ และพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรสาขาต่าง ๆ แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างแหล่งอาหาร สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร รวมทั้ง สามารถพัฒนาเกษตรกรเป็นต้นแบบขยายเครือข่ายในชุมชน ทำให้ประชาชนหมู่บ้านบริเวณรอบศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ และหมู่บ้านใกล้เคียง จำนวน 27 หมู่บ้านได้รับโอกาสการพัฒนา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

โอกาสนี้องคมนตรี ได้มอบปัจจัยการผลิตแก่ตัวแทนเกษตรกร และเยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรมต่าง ๆ ภายในศูนย์ฯ

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชูอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ณ ที่ทำการกิ่งอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2537 ได้พระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า "...ควรเร่งเปิดโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชู ตำบลห้วยตึ๊กชู และก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อแหล่งน้ำสนับสนุนโครงการศูนย์พัฒนาการเกษตร บ้านตะแบง กิ่งอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งช่วยเหลือราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ทางด้านท้ายเขื่อนเก็บกักน้ำ และควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชูด้วย..." โดยอ่างเก็บน้ำห้วยตื๊กชูฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2542 สามารถส่งน้ำให้ราษฎรสำหรับอุปโภคบริโภค และพื้นที่การเกษตร ในช่วงฤดูฝน 12,500 ไร่ และช่วงหน้าแล้ง 6,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลห้วยตึ๊กชู ตำบลโคกตาล ตำบลละลม และตำบลตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่องตลอดปี

โดยมี นางสาวศิราณี งอยจันทร์ศรี ผอ.ศพจ.ศรีสะเกษ กล่าวรายงานผลการดำเนินงาน รวมทั้งร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ อ่างเก็บน้ำตึ้กชู ได้แก่ ปลากาดำ กระแห สร้อยขาว ตะเพียนขาว รวม 100,000 ตัว และมอบพันธุ์ปลาตะเพียนให้ผู้ใช้น้ำ 5 ราย รายละ 2000 ตัว

บ้านนางสมุทร มาจาด บ้านโคกสามัคคี หมู่ที่ 14 ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเกษตรกรต้นแบบของศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ ที่ได้เข้ารับการอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ และได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองเริ่มจากการแบ่งพื้นที่ทำการเกษตรตามหลักเกษตรทฤษฏีใหม่ จากพื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ แบ่งทำนาข้าว 10 ไร่ ที่อยู่อาศัย 2 ไร่ และปลูกยางนาที่ได้รับจากศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ บริเวณริมรั้วของพื้นที่ จำนวน 30 ต้น ปลูกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ และพันธุ์น้ำหวานแปดริ้ว จำนวน 100 ต้น นอกจากนี้ยังเลี้ยงโคและกระบือ โดยนำมูลไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงบำรุงดินซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการใช้ปุ๋ยเคมี โดยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน จากการขายผลผลิต เช่น มะพร้าว กล้วยหอม กล้วยไข่ และขายหน่อพันธุ์กล้วย เป็นต้น

 


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา