การรับมือสถานการณ์อุทกภัย ด้านการประมง

 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปราจีนบุรี


การรับมือสถานการณ์อุทกภัย ด้านการประมง 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

การรับมือสถานการณ์อุทกภัย ด้านการประมง..คลิก

ผลกระทบสัตว์น้ำที่พบบ่อยในฤดูฝน

        ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 ซึ่งในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ส่งผลให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน เกิดความเครียด อ่อนแอ ยอมรับการเกิดโรคง่าย หรือตายอย่างฉับพลันได้ โดยโรคที่มักเกิดในฤดูฝน ได้แก่

1.โรคที่เกิดจากปรสิต

อาการ  ซึม ว่ายน้ำทุรนทุราย ลอยตัวผิวน้ำ ขับเมือกมาก มีแผลเลือดออก

การรักษา  ใช้ฟอร์มาลีน 25 – 50 มิลลิเมตรต่อน้ำ 1 ตัน แช่และเปลี่ยนถ่ายน้ำ โดยทำซ้ำ 2 – 3 ครั้ง หรือด่างทับทิม 1 – 2 กรัมต่อน้ำ 1 ตัน

2.โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย

อาการ  ไม่กินอาหาร ซึม มีแผลตามลำตัว ตกเลือดที่ลำตัวและครีบ ตัวด่างขาวที่ลำตัว สีซีดหรือเข้มผิดปกติ ทยอยตาย

การรักษา  นำปลาไปตรวจวินิจฉัยโรค ก่อนนำยาที่มีทะเบียนไปใช้รักษา

3.โรคไวรัส

อาการ  สีตัวเข้มหรือซีดผิดปกติ ว่ายน้ำผิดปกติ มีแผลตามลำตัว อัตราการตายสูง

การรักษา  โรคไวรัสในปลายังไม่มีทางรักษา

4.โรคน๊อคน้ำ

อาการ  ปลาจะลอยหัว เปิด – ปิดกะพุ้งแก้มเร็ว ภาวะออกซิเจนหรือตะกอนในน้ำทำให้การแลกเปลี่ยนของเหงือกลดลง อาจทำให้ปลาตายอย่างกะทันหัน

การรักษา  ไม่มีทางรักษาแต่เฝ้าระวังและป้องกันได้

 

วิธีป้องกันและเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำ

       1.วางแผนการลี้ยงสัตว์น้ำให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และฤดูกาล เพื่อให้สามารถจับจำหน่ายได้ก่อนฤดูน้ำหลาก

       2.ควรคัดเลือกลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความแข็งแรง จากฟาร์มผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้

       3.ควรปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยงในอัตราความหนาแน่นที่เหมาะสมหรือน้อยกว่าปกติ เพื่อลดความสูญเสียจากคุณภาพน้ำที่ไม่เหมาะสม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

       4.เลือกใช้อาหารที่มีคุณภาพที่ดี มีทะเบียน และให้อาหารสัตว์น้ำในปริมาณที่เหมาะสม เสริมสารอาหารหรือวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต

       5.วางแผนจัดการคุณภาพน้ำให้เหมาะสมสำหรับการเลี้ยง เช่น ในกรณีอากาศปิดควรเปิดเครื่องตีน้ำช่วยเพิ่มออกซิเจน

       6.ระหว่างเลี้ยงควรทำความสะอาดพื้นบ่อ กรณีที่เลี้ยงในกระชังให้ทำความสะอาดกระชังอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดปริมาณสารอินทรีย์ เศษอาหาร มูลของเสีย ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของเชื้อโรค

      7.ควรหมั่นสังเกตสุขภาพสัตว์น้ำอย่างสม่ำเสมอ กรณีสัตว์น้ำป่วยตายให้รีบกำจัดโดยฝังหรือเผา ไม่ควรทิ้งสัตว์น้ำป่วยไว้ในบ่อ เนื่องจากจะทำให้โรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

      8.กรณีเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ควรหมั่นดูแลความคงทนแข็งแรงของกระชัง และกระชังควรมีระยะห่างกันพอสมควร เพื่อให้น้ำหมุนเวียนถ่ายเทสะดวก

 Tags

  •   Hits
  • โครงการพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงด้านการประมง โครงการพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงด้านการประมง  จำนวนผู้อ่าน 36  เข้าตรวจต่ออายุการรับรองสุขอนามัยฟาร์มและสุขภาพสัตว์น้ำ (สอ.3) เข้าตรวจต่ออายุการรับรองสุขอนามัยฟาร์มและสุขภาพสัตว์น้ำ (สอ.3)  จำนวนผู้อ่าน 34 ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมของกลุ่มปริญญาปลาแดกบ้านโมกสูง ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมของกลุ่มปริญญาปลาแดกบ้านโมกสูง  จำนวนผู้อ่าน 34 เกษตรกรยุคใหม่ เกษตรกรยุคใหม่  จำนวนผู้อ่าน 34 ประเมินผลผลิตสัตว์น้ำ (CPUE) ประเมินผลผลิตสัตว์น้ำ (CPUE)  จำนวนผู้อ่าน 33 Kick Off  Kick Off "ฟางมาปลาโต"  จำนวนผู้อ่าน 30 สำรวจปลาหมอคางดำ สำรวจปลาหมอคางดำ  จำนวนผู้อ่าน 29  "ลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอ... จำนวนผู้อ่าน 28 ตรวจรับรองและติดตามฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตรวจรับรองและติดตามฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ  จำนวนผู้อ่าน 28 Kick Off  Kick Off "ฟางมาปลาโต"  จำนวนผู้อ่าน 27 CPUE CPUE  จำนวนผู้อ่าน 26 อบรมเกษตรกร อบรมเกษตรกร  จำนวนผู้อ่าน 26 โครงการธนาคารสินค้าเกษตร โครงการธนาคารสินค้าเกษตร  จำนวนผู้อ่าน 25 ติดตามผลการปฏิบัติงาน ติดตามผลการปฏิบัติงาน  จำนวนผู้อ่าน 22 เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำในช่วงปลายฝนต้นหนาว เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำในช่วงปลายฝนต้นหนาว  จำนวนผู้อ่าน 22


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปราจีนบุรี

    รายละเอียด  เลขที่ ๒๓๖ หมู่ที่ ๗ บ้านโคกป่าแพง  ตำบลกบินทร์  อำเภอกบินทร์บุรี  จังหวัดปราจีนบุรี ๒๕๑๑๐  โทร/โทรสาร. ๐ ๓๗๔๕ ๒๕๙๐ ๑  Email : ifprachinburi@gmail.com  email  ifprachinburi@gmail.com  โทรศัพท์ 037-452590-1  FAX 037-452590-1  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6